call center : 02-756-0335
hotline : 086-3167436

มาเก๊ากับสถานที่น่าเที่ยว

by : Manasya   update : 3

สถานที่น่าเที่ยว


สวนพฤกษศาสตร์คาโมส


             หากท่านมาเที่ยวมาเก๊า  ขอแนะนำย่านสวนพฤกษาศาสตร์คาโมส จากบริเวณโบสถ์เซนต์ปอลมีเส้นทางสั้นๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังแหล่งท่องเที่ยวในย่านสวนพฤกษศาสตร์คาโอสแห่งนี้ได้ โดยใช้ถนนสาย Rua de Santo Antonio ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายของเก่า เฟอร์นิเจอร์สไตล์จีน ผ้าทอ และเครื่องกระเบื้องต่างๆ บรรยากาศคล้ายหลงเข้าไปในถ้ำของอะลาดิน

            สวนพฤกษศาสตร์คาโอส เป็นอุทยานไม้ ดอกไม้ประดับที่สวยงามสองข้าทางจะมีทางเดินเล็กๆ ขนาดไปด้วยต้นไทรอายุหลายร้อยปี ยามเช้าแต่ละวันที่นี่จะมีผู้สูงอายุเข้ามาเดินเล่นภายในสวน บ้างก็หิ้วกรงนกที่เลี้ยงไว้มาเดินเล่น หรือไม่ก็มาออกกำลังกายเบาๆ เพื่อสุขภาพ บริเวณยอดเขาจะมีถ้ำเล็กๆ ที่ภายในมีรูปสลักครึ่งตัว ใกล้ๆ กันมีบทกวีในภาษาจีนและโปรตุเกสที่จารึกไว้บนแผ่นหิน เพื่อเป็นเกียรติแก่ Camoes กวีชาวโปรตุเกส ชื่อดังที่เข้ามาใช้ชีวิตในมาเก๊าในช่วงปี ค.ศ.1557

สวนคาซ่าและสุสานชาวโปรเตสแตนท์


             อาคารสไตล์นีดอคลาสสิคแห่งนี้ในอดีต บริษัท บริติช อีสต์ อินเดีย ได้มาเช่าพื้นที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่เพื่อทำการค้ากับจีน แล้วเรียกที่นี่ว่า สวนคาซ่า ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ Fundacao Oriente (Orient Foundation) ศูนย์ศิลปะและออดิทอเรียมขนาดเล็ก ใกล้กันเป็นสุสานของชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ ที่มีบทบาทสำคัญและมีชื่อเสียงอยู่ในมาเก๊า อาทิ จอร์จ ซินเนอร์รี่ ศิลปินผู้วาดภาพเมืองมาเก๊า ซึ่งผลลานของเขาจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะภายในศูนย์วัฒนธรรม

            เมื่อเดินผ่านจากโบสถ์เซนต์แอนโทนี่ซึ่งในพื้นที่ของสวนพฤกษศาสตร์จะมีทางเดินแคบๆ ได้แก่ Rua do Tarrafeiro, Rua de Guimarares และ Rua do Patane ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานขนาดเล็กและร้านค้าต่างๆ อาทิ โรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ โรงงานทำถังไม้ และโลหะ โรงงานทำศาลเจ้าประจำบ้าน และโรงงานทำกระดาษที่ใช้เป็นเครื่องบูชาในวัดและศาลเจ้าซึ่งอยู่ตรงบริเวณ Rua Cinco de Outubro ด้านหลังตลาดนัด Flea Market ที่มีร้านอาหารจีน เล็กๆ อยู่มากมาย

            จากสวนพฤกษศาสตร์คาโมสยังสามารถเดินไปตาม Rua de Entre-Com-Pos เพื่อเข้าไปยังย่านชุมชนโบราณของมาเก๊า ซึ่งบริเวณโดยรอบอย่าง Extrada do Repouso และ Rua da Barca จะมีร้านค้าเล็กๆ ที่จำหน่ายสินค้าคุณภาพดีราคาประหยัดส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือสมัครเล่น แต่ทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตของชุมชนอย่างใกล้ชิด



พิพิธภัณฑ์รถแข่งขันกรังด์ปรีซ์


          อาคารศูนย์กิจกรรมนักท่องเที่ยวเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีสถานที่จัดแสดงงานและการประชุม รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ชั้นยอดถึง 2 แห่ง แห่งแรกคือ พิพิธภัณฑ์ไวน์ ประวัติความเป็นมา เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตไวน์ รวมทั้งเป็นแหล่งรวบรวมไวน์ชนิดต่างๆ จากโปรตุเกสและจีนจำนวนมากถึง 1,115 ชนิด

  
        อีกแห่งคือพิพิธภัณฑ์กรังด์ปรีซ์ (Grand Prix Museum) ที่ได้จัดแสดงรถแข่งคันงามที่เคยเข้าร่วมในการแข่งขันโดยเฉพาะของนักแข่งระดับตำนานอย่าง Ayrton Senna นอกจานั้นยังมีภาพยนตร์เกี่ยวกับการแข่งขันมาเก๊ากรังด์ปรีซ์ และคอลเลคชั่นถ้วยรางวัล รูปภาพและโปสเตอร์ให้ชม

ท่าเรือเฟอร์รี่ (Macau Ferry Terminal)


           ท่าเรือเฟอร์รี่ของมาเก๊าเป็นสถนที่ที่ใช้สำหรับจอดเทียบท่าเรือโดยสารและเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่เดินทางข้ามไปยังฝั่งฮ่องกง ภายในท่าเรือแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้ขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และที่ทำการจองทัวร์ต่างๆ ฝั่งตรงข้ามท่าเรือจะเป็นหอควบคุมการแข่งรถกรังด์ปรีซ์ในช่วงเทศกาล Macau Grand Prix

ศูนย์วิทยาศาสตร์มาเก๊าและมาเก๊า ฟิชเชอร์แมนวาร์ฟ


           ศูนย์วิทยาศาสตร์มาเก๊าออกแบบโดย IM Pei สถาปนิกลูกครึ่งจีน-อเมริกันชื่อดังระดับโลก ตัวอาคารเป็นรูปทรงกรวยคว่ำสีเงินภายในมี 14 แกลลอรี่ มาเก๊าถือเป็นเมืองที่สามของโลกที่มีการนำจอภาพที่มีความละเอียดสูง 8000x8000 พิกเซลมาใช้ รองจากเมืองปักกิ่งและฮ่องกง ภายในท้องฟ้าจำลองแสดงเอฟเฟกต์แบบ 3 มิติ โดยใช้การฉายภาพแบบ 3 มิติ เป็นแห่งแรกของโลก ที่ใช้ระบบดิจิตอลซึ่งมีความคมชัดแบบ อัตราไฮเดฟินิชั่น (8000x8000)พร้อมกับภาพ 3 มิติ ทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่เข้าชมได้รับความรู้และความบันเทิงนอกจากนี้ยังมียานอวกาศจำลอง Shenzhou-VII และหุ่นยนต์อัจฉริยี่สร้างขึ้นโดยศูนย์วิทยาศาสตร์มาเก๊า
ถัดจากศูนย์วิทยาศาสตร์มาเก๊า ท่านจะได้พบกับสวนสนุกแห่งแรกและแห่งเดียวของมาเก๊า มาเก๊าฟิชเชอร์แมนวาล์ฟ ภายในมีร้านค้า ภัตตาคาร บาร์ และกิจกรรมบันเทิงอีกหลายรูปแบบ

จัตุรัสแทปเซก (Tap Seac Square)


             ไม่ไกลจากสวนสาธารณะเลาลิมเอี๊ยคตามเส้นทาง Avenida Conselheiro Ferreira de Almeida ชาวมาเก๊าเรียกกันว่า จัตุรัสแทปเซก ที่ตั้งของอาคารในสมัยนีโอคลาสสิคที่สร้างขึ้นตอนต้นศตวรรษที่ 20 แต่งแต้มสีแดงเข้มและสีเหลืองทอง ตัวอาคารมมีระเบียงและลานกว้างที่ตกแต่งด้วยต้นไม้ในกระถางกระเบื้องสีสันสวยงาม
ย่านเซนต์ลาซารัส  (Albergue SCM)

              ย่านเซนต์ลซารัสเป็นย่านที่มีกลิ่นอายแบบยุโรป ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสแทปเซก รวมถึงเป้นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์ลาซารัส และ The Old Ladie’s House หรืออาคารสองชั้นสไตล์โปรตุเกสที่ตั้งอยู่ใจกลางย่าน โดยบ้านหลังนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของหญิงชราโสดในอดีต ทุกวันนี้บริเวณโบสถ์อยู่ในความดูแลของ Holy House of Mercy และกลยเป็นพื้นที่ใช้จัดแสดงงานของศิลปินมาเก๊าและโปรตุเกส

องค์รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 


            รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของมาเก๊า ลักษณะขององค์เจ้าแม่กวนอิมเป็นรูปปั้นสีทองที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายชาวตะวันตกประดิษฐานบนดอกบัว ภายในฐานรูปปั้นเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมา รวมทั้งจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งให้ประชาชนเข้ามาพักผ่อน และนั่งสมาธิ ส่วนถนนเลียบชายฝั่งน้ำใกล้กับองค์รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม คือ ถนน ดร.ซุน ยัด เซ็น ซึ่งร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ยามค่ำคืน ผับ บาร์ และภัตตาคารร้านอาหารต่างๆ และในย่านนี้จะเปิดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสนุกสนานเคล้าวิวและทิวทัศน์ของเมืองมาเก๊าและเกาะไทปา นอกจากนั้นยังสามารถสัมผัสความกลมกลืนของวัฒนธรรมนานาชาติจากเสียงเพลง และอาหารได้ที่นี่

 

โบสถ์เซนต์โจเซฟ / โบสถ์เซนต์ออกัสติน


          หากอยากสัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบโบราณและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของมาเก๊า ขอแนะนำให้ไปเยี่ยมเยือนย่านถนนแห่งความสำราญ (Rua da Felicdade หรือ Happiness Street) ซึ่งเมื่อ 300 ปีก่อนที่นี่เคยเป็นศูนย์รวมความบันเทิงยามราตรีของชาวมาเก๊า จวบจนทุกวันนี้ อาคารจีนโบราณที่ปัจจุบันได้รับการดูแลเป็นอย่างดีก็ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยภัตตาคาร ร้านค้าที่มีอยู่มากมาย และห่างออกไปไม่ไกลนักคือ ย่านโบสถ์เซนต์ออกัสติน ที่มีสถานที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย อาทิ หอสมุดเซอร์โรเบิร์ต โฮ ตุง (ดัดแปลงมาจากบ้านสไตล์โคโลเนียล) โรงเรียนสอนศาสนาและโบสถ์เซนต์โจเซฟ ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1758 และยังคงได้รับการดูแลรักษาอย่างดี อีกฟากของจัตุรัสคือ โบสถ์เซนต์ออกัสติน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1591 องค์รูปปั้นของพระเยซูถือไม้กางเขนที่ประดิษฐานอยู่ที่นี่จะนำไปใช้ประกอบพิธีในเทศกาลอีสเตอร์ทุกปี ฝั่งตรงข้ามกับโบสถ์คือที่ตั้งของโรงละครดอมโปรโดที่ห้า โรงละครแบบตะวันตกแห่งแรกในเอเชีย สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1860 ซึ่งมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่งดงามในปัจจุบันยังคงเป็นสถานที่ในการจัดแสดงละครและคอนเสิร์ตต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลดนตรีนานาชาติของมาเก๊า

  

โบสถ์เซนต์ลอเรสซ์ / ย่านลิเลา


             ย่านใจกลางเมือง หรือ Rua Central เป็นแหล่งรวมธุรกิจต่างๆ มากมาย และยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ ซึ่งว่ากันว่าเป็นโบสถ์ที่งดงามและหรูหราที่สุดในมาเก๊า ไม่เพียงเพราะการตกแต่งเท่านั้น หากแต่สิ่งที่จัดแสดงอยู่ภายในก็มีความสวยงามล้ำค่า เดิมตัวอาคารโบสถ์ทำด้วยไม้ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1560 ส่วนอาคารที่เห็นในปัจจุบันนั้นก่อสร้างขึ้นใหม่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 จากโบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ที่สวยงามดุจภาพวาดแล้ว สามารถใช้ถนน Rua do Padre Antonio และ Rua da Barra เพื่อไปยังย่านชุมชนโบราณลิเลา บริเวณนี้จะรายล้อมไปด้วยอาคารเก่าๆ และตรงบริเวณใจกลางสี่แยกเล็กๆ แห่งนี้จะมีบ่อน้ำพุ ซึ่งเชื่อว่าถ้าใครได้ดื่มน้ำจากน้ำพุแห่งนี้จะมีโอกาสได้กลับมาที่มาเก๊าอีกครั้ง

           จัตุรัสมองไปจะเห็นแมนดารินเฮาส์ บ้านที่อยู่อาศัยของชาวจีนโบราณ ซึ่งประกอบด้วยเรือนหลายหลัง มีอาณาบริเวณ และลานหน้าบ้าน อันเป็นหนึ่งในศูนย์ประวัติศาสตร์มาเก๊า แหล่งมรดกโลก

จัตุรัสบาร์ร่า / พิพิธภัณฑ์ทางทะเล / วัดอาม่า


          บาร์ร่าสแควร์ อยู่บริเวณตอนใต้ของคาบสมุทรมาเก๊า ซึ่งถือว่ามีความเก่าแก่ และเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์เมืองมาเก๊า จากบริเวณจัตุรัสบาร์ร่านี้มองออกไปจะเห็นเกาะแลปปา (Lappa Island) ซึ่งมีเรือประมงและเรือสินค้าแล่นเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลา ตรงบริเวณเนินเขาบาร์ร่าเป็นที่ตั้งของวัดอาม่า และไม่ไกลกันคือพิพิธภัณฑ์ทางทะเล และในบริเวณนี้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตของชาวประมงมาเก๊าที่ยังคงทอดสมอ ซ่อมแซมแห อวน และชายตะเกียงไฟเรือ หากเดินย้อนกลับขึ้นด้านบนสู่ถนน Rua da Barra จะสังเกตเห็นอาคารสีเหลืองที่มีสถาปัตยกรรมโค้งแบบมัวร์ นั่นคือศูนย์บัญชาการทางทะเลของมาเก๊านั่นเอง สถานที่ท่องเที่ยวมาเก๊ายังมีอีกมาก หากท่านได้มาเที่ยวมาเก๊าก็อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้กันนะคะ

 

เขาเพนญ่าและโบสถ์


           บริเวณปลายสุดเขาเพนญ่า และคาบสมุทรคือที่ตั้งของโบสถ์เพนญ่าที่สง่างามและเป็นที่พำนักของบิชอป และยังมีป้อมปราการที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ต่อมาถูดดัดแปลงให้เป็นโรงแรมหรูหราระดับ 5 ดาวที่มีชื่อว่า Pousada de Sao Tiago ซึ่งยังคงกำแพงเก่าและบ่อน้ำพุไว้ ภายในโรงแรมครบครันไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นภัตตาคาร สระว่ายน้ำ ห้องประชุมสัมมนา ฯลฯ ห้องพักทุกห้องมีระเบียงยื่นออกไปด้านหน้าเพื่อชมทัศนียภาพของเมืองมาเก๊า ซึ่งจากจุดที่ตั้งของโรงแรมมองออกไปจะเห็น Gate of Understanding  หรือประตูแห่งความเข้าใจ ประติมากรรมขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันดีของชาวโปรตุเกสและจีน


ทำเนียบรัฐบาล Praia Grande

          จากย่านบาร์ร่าสามารถเดินหรือนั่งรถสามล้อถีบลัดเลาะไปใต้ร่มไม้ตามเส้นทางทะเลสาบ Nam-Van และมาเก๊าทาวเวอร์เพื่อไปยังถนนสาย Praia Grande สองข้างทางมีอาคารรูปทรงโบราณ เช่น Santa Sancha Palace (อดีตที่พักของผู้ว่าการมาเก๊า) และวิลล่าหลายแห่ง รวมทั้งที่พักของกงสุลโปรตุเกสประจำมาเก๊า (อดีตโรงแรมเบลาวิสต้า) วิทยาลัยริชชี่ และทำเนียบรัฐบาล ที่โดดเด่นด้วยสไตล์นีโอคลาสสิก 


ดูเพิ่มเติม
โปรแกรมทัวร์ที่เกี่ยวข้อง
เวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 08.30-17.30 น. เสาร์ 8.30-12.00 น.
ที่อยู่ : 18 ซ.บุญศิริ2(สขุมวิท27) ถ.สุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง
จ.สมุทรปราการ 10270
ใบอนุญาตินำเที่ยวเลขที่ 11/06399
DBD
เว็ปไซต์ในเครือของ Angel Star Travel
X
line @ facebook
Copyright © 2019 wowwtour.com | All Rights Reserved. | Powered by applezeed.com